
หากพูดถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ต้องบอกว่ามีอยู่หลายพื้นที่ด้วยกัน แต่ทว่ายอดเขาที่อันตรายและท้าทายกับนักปีนเขามากที่สุด คงต้องยกให้ยอดเขา เอเวอเรสต์ หนึ่งในยอดเขามรณะที่เหล่านักปีนเขาทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ นั่นคือการพิชิตยอดเขาอันหนาวเหน็บที่เต็มไปด้วยอันตรายที่มิอาจควบคุมได้ วันนี้เราจะมาเผย 15 เรื่องจริงของยอดเขาเอเวอเรสต์ที่บางคนอาจยังไม่รู้ และนักปีนเขาจำเป็นต้องรู้มากที่สุด
รวม 15 เรื่องจริงของ เอเวอเรสต์ นักปีนเขามือใหม่จำเป็นต้องรู้
หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการ ปีนเขา เอเวอเรสต์กันมาบ้างแล้ว ต้องบอกว่า นักท่องเที่ยว หลาย ๆ คนนั้นต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เพราะได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มี ความสูง มากที่สุดในโลกจากระดับน้ำทะเล แต่จะมีใครรู้บ้างว่ายอดเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยตำนานอันน่าสยอง สำหรับใครที่มีความฝันว่าอยาก ขึ้นเขาเอเวอเรสต์ มาดูกันเลยว่า ปีนเขาเอเวอเรสต์ ใช้เวลากี่วัน และสุดยอดเรื่องจริงของ เอเวอเรสต์ มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง
1. ที่มาของชื่อ
ชื่อของยอดเขาเอเวอเรสต์ถูกตั้งจาก ‘Sir George Everest’ หัวหน้าโครงการสำรวจ “Great Trigonometric Survey” ชาวเวลส์ ซึ่งเป็นการ ผจญภัย สำรวจภูมิศาสตร์ตั้งแต่บริเวณตอนใต้ของประเทศอินเดียไปจนถึงตอนเหนือของประเทศเนปาล ในปี ค.ศ. 1841 จนได้ ขึ้นเขาเอเวอเรสต์ ในที่สุด ทว่าความจริงแล้ว everest ไม่ได้ออกเสียงว่า “เอเวอเรสต์” อย่างที่เข้าใจ แต่ออกเสียงประมาณว่า “อีฟเรสต์” หรือ “อีฟหริสท์” สำหรับชาวเนปาลจะเรียกว่า “Sagarmatha” มีความหมายตรงกับคำว่า “Goddess of the Sky” ในขณะที่ชาวทิเบตเรียกว่า “Chomolungma” มีความหมายตรงกับคำว่า “Goddess Mother of the World”
2. ยอดเขาสูงที่สุดในโลก
ยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงมากที่สุดในโลก หากวัดจากระดับน้ำทะเล โดย ความสูง จะอยู่ที่ 8,848 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาย่อยมหาลังกูร์หิมัลใน เทือกเขาหิมาลัย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลายคนปรารถนาอยากจะไป ปีนเขา สักครั้งในชีวิต แม้ว่าจะมีความท้าทายสูงมากก็ตาม ก่อนหน้านี้มี นักปีนเขาเอเวอเรสต์คนแรก ที่ได้ไป พิชิตยอดเขา เอเวอเรสต์สำเร็จ หลังจากนั้นก็มี นักปีนเขา จำนวนมากที่พยายามจะตามรอยเขาไป
3. ความสูงของยอดเขาเพิ่มขึ้นทุกปี
ยอดเขาเอเวอเรสต์เกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ทำให้ทุก ๆ 1 ปี ยอดเขาแห่งนี้จะมี ความสูง เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้หลายคนที่อยากจะไป พิชิตยอดเขา แห่งนี้ยิ่งสงสัยว่า ปีนเขาเอเวอเรสต์ ใช้เวลากี่วัน แต่ต้องบอกว่ายอดเขาจะสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก และปัจจัยทางธรรมชาติอื่น ๆ โดยเฉลี่ยยอดเขาเอเวอเรสต์จะสูงขึ้น 0.4 – 1 เซนติเมตร/ปี

4. ผู้พิชิตยอดเขาคนแรกของโลก
ผู้ พิชิตยอดเขา คนแรกของโลก คือ ‘Edmund Hillary’ นักสำรวจและ นักปีนเขา ชาวนิวซีแลนด์ เขาและเชอร์ปาได้ ปีนเขาเอเวอเรสต์ สำเร็จในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 จนกระทั่งข่าวคราวนี้ดังไปทั่วโลก นั่นทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ นักปีนเขาเอเวอเรสต์คนแรก ของโลกที่ประสบความสำเร็จ และในเวลาต่อมาเขาก็ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร จนถูกเรียกว่า ‘Sir Edmund Hillary’
5. คนไทยคนแรกพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์
คนไทยคนแรกที่สามารถ พิชิตยอดเขา เอเวอเรสต์ได้สำเร็จ คือ คุณวิทิตนันท์ โรจนพานิช ผู้ทำงานเบื้องหลังให้กับสื่อต่าง ๆ มาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เขียนบท ผู้กำกับละครเวที ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ รวมไปถึงเป็นผู้ฝึกสอนเรื่องการแสดงอีกด้วย โดยเขาได้ ปีนเขาเอเวอเรสต์ สำเร็จในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 นั่นทำให้เขากลายเป็น คนไทยพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ คนแรก และในเวลาต่อมาก็ได้มีคนไทยอีกหลายคนที่พยายามจะไป ผจญภัย ที่ยอดเขาแห่งนี้
6. สัญญาณอินเทอร์เน็ต
หากใครจะไป ปีนเขาเอเวอเรสต์ บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต แม้ว่า สภาพอากาศ จะหนาวเหน็บเพียงใด แต่บริเวณดังกล่าวก็ยังได้รับการติดตั้งเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพื่อรองรับ นักท่องเที่ยว หรือ นักปีนเขา ที่เข้ามาเยือน อย่างไรก็ตามความสะดวกสบายนี้ก็มักจะมาพร้อมกับ ราคา ที่ต้องจ่าย นั่นจึงทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า ปีนเขาเอเวอเรสต์ ราคา ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากน้อยเพียงใด

7. ราคาที่ต้องจ่าย การอนุมัติก่อนจะได้ปีนเขา
การจะไป ปีนเขาเอเวอเรสต์ ได้นั้นไม่ใช่ว่าใครจะไปได้ง่าย ๆ เพราะต้องผ่านการประเมินจากคณะกรรมการก่อน หากคุณขาดคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งก็อาจทำให้ถูกตัดสิทธิ์ได้ ในกรณีที่ผ่านการอนุมัติแล้ว ก่อนจะได้ ปีนเขา ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมประมาณ 35,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1.13 ล้านบาท ทั้งนี้หากใช้บริการจากเอเจนซี่อื่น ๆ อีกก็จะมี ราคา ที่ต้องจ่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้การ ปีนเขาเอเวอเรสต์ ราคา ค่าใช้จ่ายสูงถึง 5 หมื่น หรือ 1 แสนเหรียญสหรัฐเลยก็ได้
8. ความเสี่ยงในการเจอหิมะถล่ม
นอกเหนือจาก สภาพอากาศ ที่หนาวเย็นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ นักปีนเขา หลายคนต้องเผชิญก็คือ พายุหิมะ ถล่ม และจากสถิติของการ ปีนเขา เอเวอเรสต์ ตามข้อมูลระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่บนยอดเขานี้ไม่ต่ำกว่า 300 ราย ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 โดยคิดเป็น 41.6% แม้ว่า นักปีนเขาเอเวอเรสต์คนแรก ของโลกจะ พิชิตยอดเขา แห่งนี้ได้สำเร็จ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเดินตามรอยเขาได้สำเร็จเสมอไป
9. ความท้าทายสุดอันตรายที่ต้องเผชิญ
ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น ออกซิเจนเบาบาง และเส้นทางการ ปีนเขา สุดแสนจะท้าทายและยากลำบาก ไหนจะ พายุหิมะ ที่อาจจะต้องเผชิญ นั่นทำให้เราเห็นว่าความอันตรายมีอยู่รอบตัว และอุบัติเหตุพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อจริง ๆ การ ผจญภัย ณ ที่แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก สำหรับมือใหม่จะต้องศึกษาให้ดีว่า ปีนเขาเอเวอเรสต์ ใช้เวลากี่วัน และต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
10. เตรียมความพร้อมสภาพร่างกาย
อย่างที่ทราบกันว่าการ ปีนเขา เอเวอเรสต์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ ก็จะทำได้ นอกจากจะศึกษาว่า ปีนเขาเอเวอเรสต์ ราคา ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว เราต้องเตรียมความพร้อมในด้านร่างกายเพื่อให้อดทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นและออกซิเจนเบาบางได้ นักปีนเขา หลายคนจะนิยมฝึกวิ่งและว่ายน้ำระยะไกล บางคนอาจฝึกอยู่ในที่สูงประมาณ 5-6 เดือน หรืออยู่ในเตนท์ที่ลดปริมาณออกซิเจนลงประมาณ 3 เดือน เพื่อให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายทนต่อสภาพดังกล่าวได้ดี
11. เตรียมความพร้อมสภาพจิตใจ
นอกจากสภาพร่างกายแล้ว การจะไป พิชิตยอดเขา เอเวอเรสต์ได้นั้นจะต้องเตรียมสภาพจิตใจให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย เพราะที่นั่น สภาพอากาศ หนาวเย็นมากเป็นพิเศษ อีกทั้งเส้นทางการขึ้นเขายังยากลำบากด้วย นั่นอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกท้อและเครียดจนล้มเลิกความตั้งใจได้ในที่สุด ฉะนั้นก่อนจะไป ปีนเขา ควรศึกษาก่อนว่า ปีนเขาเอเวอเรสต์ ใช้เวลากี่วัน และต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

12. เชอร์ปา ผู้ช่วยนำทางนักปีนเขา
เชอร์ปา คือ ผู้ช่วยนำทาง นักปีนเขา ที่จะไป พิชิตยอดเขา เอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งของเนปาลที่มีความชำนาญในการขึ้นเขา นั่นเป็นเพราะว่าพื้นเพของพวกเขาอาศัยอยู่ในที่สูงนั่นเอง นอกจากจะมีความชำนาญในเรื่องเส้นทาง everest แล้ว พวกเขายังมีไหวพริบสูงด้วย นั่นทำให้ นักปีนเขา หลายคน รวมถึง คนไทยพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ คนแรก ก็ใช้บริการจากเชอร์ปา เพราะการมีเชอร์ปาคอยนำทางจะทำให้ผู้ที่ไป ปีนเขาเอเวอเรสต์ รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
13. ความสกปรก
การ ขึ้นเขาเอเวอเรสต์ เป็นความฝันของ นักปีนเขา หลายคนจากทั่วทุกมุมโลก ในแต่ละปีจะมี นักท่องเที่ยว หรือคนเข้ามา ปีนเขา จำนวนมาก ซึ่งต่างมาพร้อมกับอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ และสัมภาระต่าง ๆ อย่างมากมาย เมื่อใช้เสร็จแล้วก็มักจะทิ้งไว้ตามบริเวณต่าง ๆ จนทำให้บนเขาเอเวอเรสต์มีขยะจำนวนมาก นั่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีความสกปรกอยู่พอสมควร โดยคาดว่ามีขยะอยู่ประมาณ 50 ตันเลยทีเดียว
14. Death Zone
นักปีนเขา และนักวิทยาศาตร์ ได้ขนานนามพื้นที่บนเขาเอเวอเรสต์ที่มี ความสูง 8,000 เมตรขึ้นไปว่าเป็นเขตแดนมรณะ หรือ Death Zone เพราะนอกจาก สภาพอากาศ ที่หนาวเย็นและ พายุหิมะ ที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว บริเวณดังกล่าวยังมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมอง ปอด และเลือด รวมไปถึงอวัยวะต่าง ๆ อาจทำให้มีอาการป่วยหนักและถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย อย่างที่ทราบกันว่ายอดเขาแห่งนี้ไม่ใช่ เทือกเขา ธรรมดาทั่วไป แม้กระทั่ง นักปีนเขาเอเวอเรสต์คนแรก ที่ประสบความสำเร็จยังต้องยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
15. สุสานของนักปีนเขา
การเสียชีวิตจำนวนมากของ นักปีนเขา ได้นำไปสู่การเป็นสุสานอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากการนำร่างของผู้เสียชีวิตลงจากเขานั้นทำได้อย่างยากลำบาก ส่วนใหญ่จึงปล่อยให้ศพอยู่ในสภาพนั้นไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีการจัดการใด ๆ ถึงกระนั้นการ ขึ้นเขาเอเวอเรสต์ ก็ยังเป็นความท้าทายที่ นักปีนเขา หลายคนอยากทำให้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงเผชิญกับ พายุหิมะ ถล่มที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ก็ตาม

แนะนำมือใหม่อยากปีนเขา เอเวอเรสต์ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
หลังจากที่ได้ทราบสุดยอด 15 เรื่องจริงของยอดเขา เอเวอเรสต์ แล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนัก ผจญภัย ทั้งหลาย ในอนาคตหากใครอยากไปเที่ยว เทือกเขาหิมาลัย หรือ ปีนเขา เอเวอเรสต์ อย่างแรกที่อยากแนะนำ คือ การเตรียมความพร้อมทั้งในด้านความรู้ อย่างเช่น การ ปีนเขาเอเวอเรสต์ ราคา ที่ต้องจ่ายอยู่ในระดับใด และต้องเตรียมอะไรไปบ้าง นอกจากนี้ควรเตรียมกายและใจให้พร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายที่มาพร้อมกับความอันตรายที่มิอาจคาดเดาด้วย