Free running คือ กีฬาชนิดใด ? ใครเห็นชื่อนี้ครั้งแรก รับรองต้องจินตนาการไปถึงกีฬาวิ่งแน่นอน (เพราะมีคำว่า running อยู่) ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่มันก็ไม่ถูก 100% เพราะกีฬาชนิดนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างกีฬา 3 ประเภท ได้แก่ วิ่ง, ยิมนาสติก และเต้น รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งผู้เล่นจะได้รับอรรถรสที่แตกต่างจากการวิ่งทั่ว ๆ ไป เพราะกีฬาชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นใช้ทักษะส่วนตัว ความพริ้วไหวของร่างกาย และการใช้ไหวพริบในการครีเอทมูฟเม้นต์ให้ข้ามสิ่งกีดขวางไปได้ โดยไม่มีการหยุดพัก ช่วยกระตุ้นอะดรีนาลินในร่างกายของคุณให้พุ่งพล่าน ราวกับกำลังสวมบทบาทเป็นนักแสดง “เฉิน หลง” ยังไงยังงั้นเลย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบ กิจกรรมผาดโผน เป็นอย่างมาก มาทำความรู้จัก ฟรีรันนิ่งไทย กัน รับรองว่า คุณจะต้องหลงรักกีฬาชนิดนี้ขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจแน่นอน

ทำความรู้จักกับกีฬา ฟรีรันนิ่ง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางคนอาจไม่คุ้นหูชื่อกีฬา Free running เพราะกีฬาชนิดนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยสักเท่าไร อาจเป็นเพราะความยากลำบากในการหาสถานที่เล่น ประกอบกับไม่ค่อยมีกลุ่มผู้เล่นเป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ในทางกลับกัน ถ้าเป็นในต่างประเทศกีฬาฟรีรันนิ่งเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีสถานที่และอุปกรณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการเล่นด้วย อย่างไรก็ตามในประเทศไทยก็มีกลุ่มผู้เล่น ฟรีรันนิ่งไทย อยู่ แต่เป็นเพียงส่วนน้อย สำหรับใครที่ชื่นชอบความมันส์ของ กีฬาผาดโผน ชนิดนี้ เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของกีฬาฟรีรันนิ่งกัน ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ?
กีฬาฟรีรันนิ่งเริ่มนำเข้ามาเล่นในปี ค.ศ.1980 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการฝึกออกกำลังกายในค่ายทหารของฝรั่งเศส โดยพัฒนารูปแบบมาจากการเล่นกีฬา Parkour (ปากัว) ซึ่งแปลว่า “วิ่งทุกที่” เป็นกีฬาที่อาศัยการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจากจุดนึงไปยังอีกจุดนึง ด้วยวิธีการวิ่ง กระโดด หรือกลิ้ง โดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกันตัว ถือเป็นกีฬาที่ดึงเอาศักยภาพของร่างกายออกมาใช้ล้วน ๆ เลย ฉะนั้น ร่างกายของผู้เล่นจึงต้องมีความแข็งแรงเป็นทุนเดิมก่อน มิฉะนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ต่อมาได้มีการพัฒนารูปแบบการเล่น โดยเสริมเติมแต่งลีลายิมนาสติกเข้าไปด้วย เลยทำให้กลายมาเป็นฟรีรันนิ่งในปัจจุบัน ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่อง “องค์บาก” หรือ “ต้มยำกุ้ง” มาก่อน ก็คงจำฉากที่พระเอกกำลังวิ่งหลบหลีก กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ด้วยลีลาอันเฉิดฉายได้ นั่นแหละคือ วิธีการเล่นฟรีรันนิ่งที่เราจะพาไปเจาะลึกรายละเอียดอยู่

Free running กับ Parkour เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
กีฬา Free running มีพัฒนาการมาจากกีฬา Parkour ซึ่งอ้างอิงรูปแบบมาจากการฝึกออกกำลังกายของทหารฝรั่งเศสในสมัยก่อน เป็นกีฬาที่อาศัยสมรรถนะ ความแข็งแรง และความทนทานของกล้ามเนื้อล้วน ๆ เช่น การวิ่งด้วยความเร็วสูง การกระโดดไกลจากจุด A ไปยังจุด B และการกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง โดยปราศจากอุปกรณ์เซฟตี้ใด ๆ ทั้งสิ้น ภายหลังกีฬา Parkour ได้มีการพัฒนาต่อยอดมาเป็นกีฬา ฟรีรันนิ่งไทย ยอดฮิตในปัจจุบัน ฟังดูแล้ว เจ้าสองกีฬาชนิดนี้อาจมีความคล้ายคลึงกัน แต่ที่จริงแล้ว มีความเหมือนและความต่างกันอยู่หลายสิ่ง
สิ่งที่เหมือนกันของกีฬา Free running กับ Parkour
- เป็นกีฬาที่อาศัยความแข็งแรง และความทนทานของร่างกาย 100% (Me my body นั่นเอง)
- หลักพื้นฐาน คือ อาศัยการวิ่ง การเดิน และการกระโดดไปยังจุดหมายปลายทาง
- สามารถเล่นได้คนเดียว หรือมากกว่า 1 คนขึ้นไป
- ปราศจากอุปกรณ์เซฟตี้สวมใส่ เพราะจะทำให้ความคล่องตัวขาดหายไป
- มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสเหมือนกัน (เนื่องจากกีฬา Parkour เป็นส่วนหนึ่งของกีฬา ฟรีรันนิ่งไทย)
- เป็นกีฬาที่ใช้ใจนำพาร่างกาย (จิตใจเกิน 100%)
- ใช้สถานที่ฝึกซ้อม หรือ Academy ที่เดียวกัน
สิ่งที่แตกต่างกันของกีฬา Free running กับ Parkour
- Free running จะเน้นท่วงท่าที่สวยงาม จังหวะตีลังกา ผาดโผน เล่นท่ายาก ในขณะที่ Parkour จะเน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความรวดเร็วในการนำพาตัวเองเข้าสู่เส้นชัย
- Parkour จะเหมาะสำหรับมือใหม่มากกว่า ถึงแม้ไม่มีทักษะการเล่นยิมนาสติกมาก่อนก็สามารถเล่นได้
- Parkour จะเน้นความคล่องตัวในการกระโดด ปีนป่ายข้ามสิ่งกีดขวาง โดยไม่มีท่าตีลังกาเข้ามาเสริม ในขณะที่ ฟรีรันนิ่งไทย จะเพิ่มท่าตีลังกาหน้า ลังกาหลัง รวมทั้งกระโดดตีเกลียวเข้ามาเสริมด้วย

ข้อควรระวังในการเล่นกีฬา ฟรีรันนิ่ง
Free running จัดเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่น่าสนใจไม่แพ้กีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดอื่นเลย ไม่มีกฏกติกา และรูปแบบการเล่นที่ซับซ้อน ที่สำคัญไม่ต้องลงทุนหาซื้ออุปกรณ์ราคาแพง ๆ แบรนด์หรู ๆ เลย เพราะอาศัยเพียงแค่ 2 มือ 2 ขา และ 1 สมองของคุณในการปีนป่าย กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ครีเอทท่าทางการแสดงโลดโผนให้เข้าตามกรรมการได้ คุณก็คว้าชัยมาได้แล้ว ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการเล่นกีฬาฟรีรันนิ่งมีมากมายนับไม่ถ้วน
- ได้ทั้งความแข็งแรง ความทนทานของกล้ามเนื้อแขน ขา หน้าท้อง และไหล่
- เสริมสร้างความยืดหยุ่นของข้อต่อ (Joints) ช่วยให้คุณทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว กระฉับกระเฉง ไม่เฉื่อยชา
- ช่วยยกระดับจิตใจของคุณให้มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้า
- ช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการคิด และการตัดสินใจ ให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและไม่ผิดพลาด
อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่า กีฬาผาดโผน ย่อมมีโอกาสเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ ยิ่งเป็นกีฬาฟรีรันนิ่งที่ไม่มีการสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ด้วยแล้ว โอกาสเกิดอันตรายก็ยิ่งมีมากขึ้น หากคุณเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ที่เพิ่งหัดเล่น ฟรีรันนิ่งไทย แนะนำให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของโค้ชนักกีฬาที่มีประสบการณ์ เพราะอย่างน้อยจะได้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุลงได้
The Movement Playground ยิม Free running แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีสถานที่สอน Free running และ Parkour แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย ชื่อ ‘The Movement Playground’ สถานที่นี้มีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า ‘MPG’ ตั้งอยู่ที่ 36/4 ซอยสุขุมวิท 69 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย คุณฟาน ศรีไตรรัตน์, คุณสุวิโรจน์ ลีลาประชานุกูล และคุณชาตรี ซาบาโด ศรีวิจิตร ภายใต้เจตนารมณ์ที่อยากให้กีฬา Free runner และ Parkour เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และเป็นศูนย์กลางการเล่น ฟรีรันนิ่งไทย ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดานักกีฬาจากทั่วประเทศได้มีโอกาสเข้ามาพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้ในการเล่นฟรีรันนิ่งอีกด้วย เราไปเจาะลึกสิ่งที่น่าสนใจภายใน The Movement Playground กันดีกว่า
รีวิว The Movement Playground
ใครที่ยังไม่เคยเข้าไปใช้บริการ The Movement Playground ลองมาอ่านรีวิวตรงนี้ดูก่อนได้ ว่า มีสิ่งไหนน่าสนใจบ้าง
- The Movement Playground มีทีมงานโค้ชนักกีฬามากประสบการณ์ และผ่านการแข่งขันระดับเวทีนานาชาติมาแล้ว หนึ่งในนั้นคือ Julien Vigroux นักกีฬา Parkour ผู้คร่ำหวอดในวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี เกิดที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดของกีฬาชนิดนี้ด้วย
- Adults Class (อายุ 1 ปีขึ้นไป) คลาสสำหรับผู้ใหญ่ เป็นคลาสที่สอนทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ ปูพื้นฐานตั้งแต่การยืน การทรงตัว การกระโดด โดยเน้นการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ แถมมีการฝึกสมาธิให้กับผู้เล่นอีกด้วย
- Teens Class (อายุ 12-17 ปี) คลาสสำหรับกลุ่มวัยรุ่น รูปแบบคล้ายคลึงกับ Adults Class เพียงแต่จะมีการเสริมเทคนิคที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้าไปให้ถูกใจวัยโจ๋อีกด้วย
- Kids Class (อายุ 6-11 ปี) The Movement Playground เปิดรับนักกีฬาที่เป็นวัยรุ่นฟันน้ำนม อายุ 6-11 ปี ด้วยโปรแกรมการสอน 5 Core Element (Fire, Water, Wood, Earth, Metal) โดยมีการนำท่วงท่าของนินจาเข้ามาเป็นสื่อการสอน เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำด้วย
- Little Kids Class (อายุ 4-5 ปี) เพราะอายุไม่ใช่อุปสรรคสำหรับกีฬา Parkour ทีมงานจึงได้มีการออกแบบเครื่องเล่นให้ใกล้เคียงกับกีฬา Parkour ของจริงมากที่สุด เพียงแต่ย่อส่วนลงมาให้มีขนาดเล็กให้เข้ากับเด็ก ถือเป็นการ Pre Parkour ที่เน้นฝึกทักษะการเคลื่อนไหวให้กับเด็กเล็กด้วย
- ราคาไม่แพง คุ้มค่าสบายกระเป๋า
- มีฐานให้ร่วมสนุกด้วยกันมากมาย ซึ่งแต่ละฐานมี Level ความยากง่ายไม่เหมือนกัน
- สถานที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน และการันตีความน่าเชื่อถือด้วยใบรับรองจากต่างประเทศ
- มีมุมกาแฟ เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ไว้รองรับผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมให้มีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
- ที่จอดรถมีเพียงพอ ไม่แออัดกันจนเกินไป

แนะนำช่องยูทูป Free running
สาวกกีฬาเอ็กซ์ตรีมต้องไม่พลาด สาระความรู้ และความบันเทิงเกี่ยวกับกีฬา Free running แบบจัดเต็ม ซึ่งทีมงานได้รวมรวม Youtube Channel ที่สร้างสรรค์ผลงานคอนเท้นต์กีฬาชนิดนี้มาให้ทุกท่านได้เลือกชมกันแบบจุใจ ได้ทั้งความรู้ควบคู่ความบันเทิงอีกต่างหาก
- Hopper Blog (แนะนำความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกีฬา ฟรีรันนิ่งไทย)
- StuntsAmazing (รวมคลิปฟรีรันนิ่งน่าสนใจ)
- Seki Barker (สอนฟรีรันนิ่ง)
- Zeno Online (รวมฟรีรันนิ่งเทพ ๆ)
- StormFreerun (รวมคลิปสอนฟรีรันนิ่งตั้งแต่ Basic จนไปถึง Advance)
สรุป
นักกีฬาสายลุย สายบู๊ ทั้งหลายคงถูกใจ Free running ไม่ใช่น้อยเลย ถือเป็น กีฬาผาดโผน อีกประเภทนึงที่ประหยัดงบ ไม่ต้องสรรหาซื้ออุปกรณ์เซฟตี้อะไรให้วุ่นวาย อาศัยแค่ฝีไม้ลายมือในการวาดลวดลายเล่นกายกรรม บวกกับจิตใจที่หาญกล้าของคุณในการฟันฝ่าสิ่งกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้า คุณก็สามารถเล่นได้แล้ว ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ชื่นชอบกีฬาแนวนี้ อย่าลืมเข้าไปใช้บริการ The Movement Playground สถานที่ที่รวบรวมความเป็น ฟรีรันนิ่งไทย ไว้ที่นี่ที่เดียว