วันนี้ทีมงานจะพาไปทำความรู้จักกับกีฬา วิ่งวัวกระทิง หนึ่งในชนิดกีฬาที่ถูกบรรจุอยู่ใน เทศกาลวิ่งวัวกระทิง (San Fermín Fiestas) ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีของชาวสเปนที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 14 กรกฎาคมของทุกปี โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องสวมชุดสีขาว และพันผ้าพันคอสีแดง เพื่อให้ดึงดูดสายตาจากบรรดาฝูงวัวกระทิง ไฮไลต์ของงานจะอยู่ที่การปล่อยฝูงวัวกระทิงออกจากคอกที่อยู่ในเมืองให้วิ่งไปตามเส้นทางราว 850 เมตร ผู้เข้าร่วมงานจะต้องสับเกียร์หมา วิ่งตีนแตก เพื่อหนีเอาตัวรอดจากการไล่ขวิดของฝูงวัวกระทิงให้ได้ ประชาชนที่อยู่สองข้างทางเองก็สามารถล่อวัวกระทิงให้ไล่ขวิดตัวเองได้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนาน หรือเทศกาลแห่งการเจ็บตัวกันแน่ แต่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานเทศกาลเท่านั้น ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ และน่าตื่นเต้นรออยู่อีกมากมาย

จุดเริ่มต้นของกีฬา วิ่งวัวกระทิง
ชาวสเปน กับ วัวกระทิง ไม่รู้ทำบาปทำกรรมอะไรไว้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ถึงต้องมาคอยไล่ขวิดมนุษย์ให้วิ่งหนีกันอลหม่าน ซึ่งกิจกรรมนี้ไม่ใช่เพิ่งจะมีมาปีสองปี แต่ ประวัติเทศกาลวิ่งวัวกระทิง มีประวัติมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 หรือย้อนอดีตไปเมื่อ 820 ปีที่แล้ว สมัยนั้น สเปน เป็นประเทศมหาอำนาจที่เกรียงไกรที่สุดในทวีปยุโรป มีกองเรือรบขนาดมหึมา เป็นเจ้าอาณานิคมที่ไม่เป็นสองรองใคร หากพูดถึงประเทศ สเปน ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัวทั้งนั้น โดยจุดเริ่มต้นของ เทศกาล วิ่งวัว กระทิง (San Fermín Fiestas) เกิดขึ้นที่เมืองปัมโปลนา (Pamplona) อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน มีเกษตรกรกลุ่มนึงดำรงชีพด้วยการต้อนฝูงวัวไปที่โรงฆ่าสัตว์ในเมือง ซึ่งมีระยะทางไกลมาก จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษ และลูกล่อลูกชนกว่าจะต้อนวัวได้สำเร็จ ซึ่งวิธีที่ได้ผลที่สุด คือ ให้คนวิ่งไปอยู่หน้าฝูงวัวกระทิงและยั่วให้มันโมโหสุด ๆ มันจะได้วิ่งไปถึงที่หมายเร็ว ๆ จนกลายเป็นกิจกรรมที่แสนสนุกของเด็กชนบทในสมัยนั้น ต่อมาการต้อนวัวลักษณะนี้ก็ได้กลายเป็นกีฬาท้องถิ่นที่มีกติกาการแข่งขันว่า วัวของใครที่ถูกต้อนและวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนกันจะเป็นฝ่ายชนะ เรียกเสียงเฮฮาจากกองเชียร์ได้ไม่น้อยเลย ต่อมาการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความหวาดเสียวเพิ่มขึ้น จากเดิมที่แข่งขันประชันความเร็วกันธรรมดาก็กลายมาเป็น ผู้กล้าคนไหนที่ยั่วให้วัวกระทิงโกรธแบบสุด ๆ ได้ โดยที่ไม่โดนวัวกระทิงทำอันตรายใด ๆ ผู้กล้าคนนั้นก็จะเป็นฝ่ายชนะไป จากนั้นก็พัฒนาการกลายเป็นกีฬายอดฮิตของชาวสเปนจวบจนมาถึงทุกวันนี้

มาทาดอร์ กับ วิ่งวัวกระทิง คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
ในเมื่อทุกท่านรู้ประวัติความเป็นมาของกีฬา วิ่งวัวกระทิง กีฬาสุดฮิตของชาวสเปนกันไปแล้ว อีกคำนึงที่มักปรากฏให้เห็นในกีฬาวิ่งวัว คือ ‘มาทาดอร์’ เชื่อว่า หลายคนคงเคยผ่านหูผ่านตากันมาแล้ว แต่ไม่เข้าใจความหมายของมัน หรือสงสัยว่า มีความเกี่ยวข้องกับ เทศกาลวิ่งวัวกระทิง (San Fermín Fiestas) อย่างไร วันนี้เราจะพาไปคลี่คลายทุกข้อสงสัยกัน

มาทาดอร์ (Matador หรือ Bullfighter) เป็นคำที่ใช้เรียกนักสู้วัวกระทิง กีฬาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานในประเทศสเปน ลักษณะการแข่งขันจะเป็นการหลอกล่อวัวกระทิงด้วยลีลาท่าทางที่สง่างาม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม แต่ลึก ๆ แล้วในความสวยงามของลีลามาทาดอร์ก็แฝงไปด้วยความอันตรายเช่นกัน เพราะถ้าหากพลาดโดนวัวกระทิงขวิดขึ้นมาก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ ฉะนั้น ผู้ที่จะมาเป็น มาทาดอร์ ได้ ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจึงจะลงสนามแข่งขันได้ สำหรับการฝึกซ้อม จะฝึกการใช้ผ้าสองชนิด ผ้าผืนใหญ่ที่เรียกว่า คาโปเต้ จะใช้ในขณะที่ต่อสู้กับวัวกระทิง ส่วนผ้าสีแดงที่เรียกว่า โมเลต้า จะใช้ในการควบคุมวัวกระทิง การฝึกลักษณะนี้ เพื่อให้นักกีฬามีความคุ้นเคยในการใช้ผ้าชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการฝึกออกกำลังแขนและข้อมือไปในตัว เพื่อให้สามารถจับผ้าได้อย่างมั่นคง รวมทั้งการฝึกกับวัวเทียม เพื่อได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวของวัวกระทิงด้วย ส่วนประวัติของ มาทาดอร์ (Matador หรือ Bullfighter) เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 18 (320 ปีที่แล้ว) ชาวสเปนเริ่มหลงใหลในการวิ่งล่อวัวกระทิง จนกระทั่ง นายฟรานซิสโก โรเมโร (Francisco Romero) เปิดโรงเรียนสอนเด็กหนุ่มที่ต้องการมีอาชีพเป็นมาทาดอร์ โดยจะต้องมีลีลาการหลอกล่อวัวกระทิงแบบอ่อนช้อย เร้าใจ และปลอดภัยต่อตัวเอง ซึ่งมีเด็กหนุ่มจำนวนมากต้องการเข้ามาเรียน ในปี พ.ศ.2467 มีคนตายจากการถูกวัวกระทิงขวิดถึง 14 คนภายในปีเดียวกันที่เมืองปัมโปลนา ประเทศสเปน เลยเป็นที่มาของการจัดงานเทศกาลวิ่งวัวกระทิงในวันที่ 6 -14 กรกฎาคมของทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึง เซนต์เฟอร์มิน เออร์เนสท์ เฮมมิงเวย์ (Saint Fermin Ernest Hemmingway) นักเขียนและนักประพันธ์ระดับโลกที่ได้มาพบเห็นประเพณีการวิ่งล่อวัวกระทิงและนำไปเขียนเป็นนวนิยายเรื่อง The Sun Also Rise ถูกเผยแพร่ในปี พ.ศ.2469 ส่วนใหญ่แล้วเทศกาลวิ่งวัวกระทิง ซึ่งเป็นเทศกาลเก่าแก่ของชาวสเปน จะมีการจัดกิจกรรมทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย โดยในช่วงเช้าจะเป็นการวิ่งวัวกระทิง ส่วนในช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันมาทาดอร์ ทั้งสองชนิดกีฬานี้มีความแตกต่างกัน โดยการวิ่งวัวกระทิงจะเป็นการวิ่งเอาตัวรอดจากการไล่ขวิดของวัวกระทิง ส่วนมาทาดอร์จะเป็นลักษณะของการแสดงโชว์ลีลาหลอกล่อวัวกระทิงเสียมากกว่า ถึงแม้สองชนิดกีฬานี้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็ไม่สามาถแยกออกจากกันได้อยู่ดี เพราะเปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของงานเทศกาลวิ่งวัวกระทิงเลยก็ว่าได้

สรุป
กีฬา วิ่งวัวกระทิง อาจเรียกได้ว่า เป็นกีฬาของคนบ้าระห่ำก็คงจะไม่ผิด เพราะคนที่เล่นกีฬาชนิดนี้ใจต้องเกิน 100 ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตาย ไม่หวั่นไหวต่อความดุดันของวัวกระทิงที่พร้อมจะขวิดคู่ต่อสู้ทุกคนที่ขวางหน้า ถึงแม้กีฬาชนิดนี้จะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีการจัด เทศกาล วิ่งวัว กระทิง (San Fermín Fiestas) มายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันร่วม 400 ปี จากสถิติในแต่ละปีมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันและนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บ้างก็วิ่งขาพันกันสะดุดล้ม ชนกันเอง ถูกวัวเหยียบก็มี หรือถูกวัวกระทิงขวิดก็มี ซึ่งไม่ได้มีแค่นักกีฬาชาวสเปนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีนักกีฬาจากทั่วโลกสมัครใจมาขอลองเสี่ยงดู ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองปัมโปลนา ประเทศสเปนให้มีเงินสะพัด และทำรายได้อย่างมหาศาลจากนักท่องเที่ยวทุกปีเลยทีเดียว