Parkour (ปาร์กัวร์) กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่จะพาก้าวข้ามทุกอุปสรรค

Parkour (ปาร์กัวร์) กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่จะพาก้าวข้ามทุกอุปสรรค

Parkour (ปาร์กัวร์) มาจากคำภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า วิ่งไปทุกที่ ในรูปแบบที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ ผ่านการวิ่ง ปีน กระโดด หรือแม้แต่ กลิ้ง โดยไม่มีอุปกรณ์กีฬาหรืออุปกรณ์เสริมใดๆ เพื่อผ่านทุกสิ่งกีดขวางจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งโดยเร็วที่สุด ปัจจุบบันปาร์กัวร์ถือว่าเป็นหนึ่งในกีฬาเอ็กซ์ตรีม ผาดโผนที่เน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและมีเรื่องราวน่าสนใจที่ได้รวบรวมมาฝากดังต่อไปนี้

Parkour กับ Free running เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

ว่ากันว่า Parkour มีส่วนคล้ายกับกีฬาเอ็กซ์ตรีม อีกประเภทหนึ่งนั่นคือ Free running (ฟรี รันนิ่ง) แต่ในรายละเอียดของทั้งสองชนิดกีฬานี้มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร โดย Parkour คือกีฬาที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศสซึ่งคิดค้นโดย เดวิด เบลเลอ (David Belle) เมื่อปี ค.ศ.1988 หลังจากเริ่มคิดค้นผ่านไปราวๆ 10 ปี การวิ่งไปทุกที่แบบปาร์กัวร์ ก็เริ่มมีรูปแบบใหม่ๆ เช่น การใส่ทักษะเหมือนกีฬายิมนาสติกเข้าไปอย่างท่าตีลังหา กระโดดหมุนตัวท่าต่างๆ ซึ่งเพิ่มความยากและค่อนข้างท้าทายความสามารถมากขึ้น แล้วก็เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น Free running แทน และนี่ก็คือความแตกต่างของปาร์กัวร์กับ Free running 

การฝึกทักษะ Parkour รูปแบบต่างๆ 

Parkour ถือว่าเป็นกีฬาที่สามารถฝึกเล่นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมาย เพียงแค่มีรองเท้าดีๆ สักคู่ กับสถานที่ที่เหมาะสมกับการฝึก ซึ่งจุดประสงค์ในการฝึกและเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ชนิดนี้ของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันไป บางคนฝึกเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย บางคนฝึกเพื่อไปต่อยอดกีฬาชนิดอื่น เช่น วิ่งเทรล ปีนหน้าผา ซึ่งการฝึกปาร์กัวร์ จะมีส่วนช่วยเพิ่มเติมทักษะและความแข็งแกร่งให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการฝึกปาร์กัวร์ ในเบื้องต้นก็ทำได้หลายวิธี เช่น 

ฝึกกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง เช่น ขอนไม้ ก้อนหิน โต๊ะ เก้าอี้ กล่องกระดาษ, ฝึกความแม่นยำในการกระโดดขึ้นและลงอย่างแม่นยำด้วยเท้าบนสิ่งกีดขวางเล็ก ๆ หรือพื้นที่แคบๆ , ฝึกการเคลื่อนไหวด้วยการกลิ้งอย่างปลอดภัยและคล่องแคล่ว, ฝึกวิ่งเข้าหากำแพงสูงจากนั้นกระโดดและผลักออกจากกำแพงด้วยเท้าเพื่อไต่ขึ้นไปให้ถึงด้านบนของกำแพง

สำหรับสถานที่ฝึกทักษะเหล่านี้ จะมียิมที่มีพื้นที่ให้ผู้สนใจได้ฝึกในลักษณะที่เรียกว่าฝึกตามฐานต่างๆ ก่อนจะไปฝึกตามสถานที่ในการแข่งขันกีฬาจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีอุปสรรคทั้งต้นไม้ โขดหิน ทางลาดชัน แหล่งน้ำ เป็นต้น 

อย่างที่ได้กล่าวถึงไปในตอนต้นว่า อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดของ Parkour ก็คือรองเท้า ดังนั้นในการเลือกรองเท้าสำหรับฝึกเล่นกีฬาชนิดนี้ ก็ควรเลือกรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่ง การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วโดยเฉพาะ มีเชือกผูกหนาแน่น และไม่ควรใช้รองเท้าแตะในการฝึกอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ภาพรวมของปาร์กัวร์ เรียกว่าเป็นกีฬาผาดโผนที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตรายจากการบาดเจ็บได้ง่าย ผู้ที่สนใจกีฬาชนิดนี้จึงต้องให้ความสำคัญการเบสิคในการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นอย่างยิ่ง โดยต้องอาศัยความอดทนในการฝึกตั้งแต่ระดับที่ง่ายที่สุด ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มทักษะความยากแบบเป็นขั้นตอนและไม่ควรข้ามขั้นตอนไปฝึกท่ายากๆ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายเกิดความบาลานซ์กับการใช้เทคนิคต่างๆ ด้วย 

สำหรับในเมืองไทย Parkour ก็เป็นทั้งกีฬาและกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการฝึกความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างสมาธิ ความแข็งแกร่งให้กับจิตใจ เช่น ใครที่รู้สึกกลัวความสูงหรือไม่กล้าทำอะไรเสี่ยงๆ เมื่อได้ลองฝึกปาร์กัวร์ ก็ได้ค้นพบตัวเองในการทำสิ่งที่ชอบได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยมียิมที่เป็นสถานที่ฝึกปาร์กัวร์ซึ่งได้รับการดูแลโดย จูเลียน วิโกรวซ์ (Julien Vigroux) ผู้ก่อตั้งและผู้ฝึกสอนชาวฝรั่งเศส ที่มีใจรักในกีฬาชนิดนี้ แล้วเขาก็ต้องการถ่ายทอดความน่าสนใจหลายๆ แง่มุมของปาร์กัวร์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในไทย

freerunning

การฝึกปาร์กัวร์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ กีฬาเอ็กซ์ตรีม กับกีฬาผาดโผน ท้าทาย ซึ่งเมื่อฝึกบ่อยๆ จนแข็งแรงและมีทักษะการใช้ร่างกายได้อย่างปลอดภัย ก็สามารถไปทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์อื่นๆ ได้อย่างสนุกสนาน เช่น การวิ่งเทรล การปีนหน้าผา เดินป่า ปีนเขา เหล่านี้เป็นต้น