Cliff Jumping หรือเรียกอีกอย่างว่า Cliff Diving เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่จะต้องกระโดดลงมาจากหน้าผา แบบไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใด ๆ เป็นการโดดจากที่สูงลงไปในน้ำ หรือทะเลที่รอรับอยู่ด้านล่าง ซึ่งความอันตรายมีอยู่รอบด้าน ถึงแม้ว่าจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม จะคล้ายกับกีฬา Base jumping แต่ต่างกันตรงที่มีร่มชูชีพให้ใส่ได้นั้นเอง จากภาพที่เห็นเหมือนกับว่ากีฬา Cliff Jumping เป็นกีฬาที่เล่นง่าย แต่แท้จริงแล้วต้องใช้เทคนิคหลายแบบ ที่จะควบคุมตัวเองให้ปลอดภัย และต้องมีจิตใจที่แข้มแข็งมากเช่นกัน

อันตรายจาก Cliff Jumping เอาชีวิตเป็นเดิมพัน

      ถึงแม้ว่ากีฬา Cliff Jumping จะมีความอันตรายถึงชีวิตได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เป็นหนึ่งในกีฬายอดนิยม ซึ่งมีคนทำสถิติเอาไว้ที่ความสูง 58.8เมตร หรือเทียบเป็นความสูง เท่ากับ 193ฟุต ซึ่งจะขอกล่าวถีงประวัติคร่าว ๆ ให้ฟัง เมื่อย้อนไปเมื่อ 250ปีก่อนหน้านี้ มีบันทึกว่าราชาของเกาะฮาวาย จะใช้อำนาจบังคับให้นักรบโดดจากที่สูงลงไปในน้ำ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อราชา ต่อมาพัฒนาเป็นกีฬาที่ต้องโดดจากหน้าผา ลงน้ำและต้องให้น้ำกระเด็นน้อยที่สุด คือผู้ชนะ และเริ่มมีการแพร่ภาพสดทางสื่อโทรทัศน์ในเวลาต่อมา จึงทำให้ผู้คนสนใจลองเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมนี้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะชาวต่างชาติ

      ความท้าทายของกีฬาชนิดนี้ ถือเป็นกีฬาท้าความตายอีกประเภทหนึ่ง เนื่องจากเป็นการโดดจากที่สูง ด้วยความเร็วที่มากกว่า 70ไมล์ /ชั่วโมง ซึ่งความอันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายกระทบน้ำด้วยความเร็ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่ร่างกายจะได้รับบาดเจ็บ ไม่มากก็น้อยแล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ซึ่งอาการที่จะพบบ่อยสำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดนี้ นั้นก็คือ กระดูกแตกหัก แผลถลอกตามลำตัว รอยช้ำ หรืออาจจะกระแทกด้วยความเร็ว จนทำให้กระดูกสันหลัง ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก เป็นต้น ซึ่งต่อให้ชำนาญในการเล่น มากขนาดไหน ผู้เล่นจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน เพราะเป็นกีฬาที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัวแม้แต่ชิ้นเดียว

แนะนำการฝึกฝนก่อนการลงสนามจริง