Free Solo Climbing เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความเป็นความตายเป็นเครื่องเดิมพัน จัดเป็น กีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่เสมือนเอาชีวิตไปทิ้ง และผู้เล่นต้องใช้ทักษะความท้าทาย บวกกับความความบ้าบิ่นพอสมควร ถึงจะเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ เป็นกีฬาที่มีอุปกรณ์น้อย หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นกีฬาที่ไม่มีอุปกรณ์เสริมอื่น นอกจากมือ และเท้าเปล่า ยิ่งอุปกรณ์น้อยชิ้นมากเท่าไร นั้นหมายถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้มากเท่านั้น 

ที่มาของกีฬา Free Solo Climbing จากภาพยนต์เรื่องหนึ่ง

        Free Solo Climbing หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Soloing เป็น กีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่ต้องอาศัยการตัดสินใจที่เด็ดขาด เพราะทุกการตัดสินใจหมายถึงชีวิต รูปแบบของกีฬาชนิดนี้ คือการปีนเขา แบบอิสระไม่กำหนดท่าไม้ตาย หรือกฎกติกาอะไรมากมาย เพียงแค่ใช้ สองมือ สองเท้า ปีนเขาหรือหน้าผาสูง แบบไม่ใช้เชือก และไม่มีสายรัดเอวใด ๆ จะปีนโดยลำพัง ซึ่งผู้ที่จะเล่นกีฬาขนิดนี้ได้ ต้องมีความแข็งแรงทั้งทางร่างกาย และจิตใจสูงมาก ซึ่งจะเป็นทักษะเฉพาะตัว ที่ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นกีฬาที่อันตรายที่สุดอย่างหนึ่ง 

        การปีนเขาชนิดนี้จะไม่เหมือนการปีนเขาแบบ Bouldering ถึงแม้ว่าจะเป็นการปีนหน้าผาแบบตัวเปล่าเหมือนกัน แต่การปีนแบบ Bouldering จะกำหนดระยะทางที่สั้นกว่า ไม่เน้นความสูง บางครั้งเป็นการปีนแบบแนวราบหรือแนวนอน และหากเกิดข้อผิดพลาด จะมีตาข่ายรองรับเพื่อเป็นการเซฟความปลอดภัยให้กับปฝผู้เล่น แต่สำหรับ Free Solo Climbing ถ้าหากตัดสินใจผิดพลาด นั้นหมายถึงความบาดเจ็บสาหัส หรืออาจจะเสียชีวิต ที่ผู้เล่นต้องยอมรับสภาพ 

        สิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม ประเภทนี้อาจจะเป็นเพราะชื่นชอบมาจากภาพยนต์แนวสารคดี เรื่องหนึ่งที่ได้รับรางวัลออสก้า เรื่องราวในหนังจะนำเสนอการติดตามชีวิตนักปีนเขา Free Solo Climbing โดยตัวละครหลักของเรื่องมีความมุ่งมั่นที่จะพิชิตยอดเขา ที่สูงราว 915 เมตรให้ได้ ซึ่งเรื่องราวของหนังเรื่องนั้น ทำให้ผู้รับชมเข้าใจเทคนิค และได้เรียนรู้วิธีเอาตัวรอด ของกีฬาชนิดนี้มากขึ้น จากนั้นก็มีคนอยากรู้อยากลอง ที่จะทำตาม จนเกิดเป็นกีฬาที่หลายคนได้รู้จักกันถึงตอนนี้ 

ทุกกีฬามีความเสี่ยง หากขาดประะสบการณ์ที่ดี