RED BULL EXTREME เป็นเรื่องราวของเครื่องดื่มยี่ห้อเรดบลู กับการสนับสนุนกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งเป็นมานานถึง30ปี ซึ่งเรดบลูเป็นเป็นผลิตภัณฑ์ โดยชาวออสเตรีย ซึ่งได้เริ่มต้นจากการสกีนชื่อแบรนด์ บนเสื้อของนักแข่งรถชาวออสเตรีย ซึ่งในตอนนั้น ได้เริ่มเป็นสปอนเซอร์ ให้กับนักกีฬา และต่อมาก็ได้กลายมาเป็นสปอนเซอร์ ให้กับมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่ อย่างเป็นทางการ จนกลายเป็นแบรนด์ ที่ให้การสนับสนุนกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีม มากที่สุดระดับโลก พร้อมทั้งทำให้ผลิตภัณฑ์ เรดบลูมียอดขายมากกว่าหนึ่งพันล้านกระป๋อง

RED BULL EXTREME ประสบความสำเร็จได้อย่างไร 

สัญญาลักษณ์ RED BULL EXTREME กลายเป็นที่รู้จักของคนผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุนกีฬา ทำให้แผนการตลาดของ RED BULL เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นของการลงทุนกับการสร้างชื่อเสียงมานาน และการแผนการตลาดของ เรดบูล ที่ร่วมกับ กีฬาเอ็กซ์ตรีม ทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ เราจะสรุปให้ฟัง ดังนี้ 

• ประสบความสำเร็จจากอีเวนต์ 

REDBULL มีชื่อเสียงจากการจัดงานอีเวนต์ และจัดตั้งตัวเองเป็นสปอนเซอร์หลัก ซึ่งจะเป็นรูปแบบการจัดงานแปลกไปจากที่อื่น ยกตัวอย่างเช่น จัดให้มีการแข่งขันวิ่ง แต่เป็นการวิ่งที่ต่างจากการวิ่งทั่วไป คือจะแหวกแนวเป็นการวิ่งแบบขึ้นลงเขา ทั้งทางราบและทางวิบาก หรือจัดแข่งขันสเกตน้ำแข็งแบบหวาดเสียว ซึ่งทำให้เรามองเห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ ในการจัดแข่งขัน กีฬา EXTREME รูปแบบใหม่อยู่เสมอ จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง

• ประสบความสำเร็จจากนักกีฬา

ภายใต้แบรนด์ของเรดบลู RED BULL EXTREME มีนักกีฬาที่สังกัดอยู่เป็นของตัวเอง ประมาณ800กว่าชีวิต ซึ่งถ้าแยกประเภทกีฬาออกไป จะเป็นกีฬาทั้งหมด 90กว่าชนิดด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนักกีฬาทั้งหมดนั้น มีหลายคนที่ทำชื่อเสียงให้กับแบรนด์เรดบลู ยิ่งเป็นการสนับสนุนให้ เรดบลูขึ้นแท่นแบรนด์ชั้นนำ ที่ติดทุกการแข่งขันกีฬายอดนิยม จนถึงปัจจุบัน 

• ประสบความสำเร็จจากการผลิตสื่อ 

อีกหนึ่งความสัมพันธ์ของ RED BULL EXTREME ของการจัดการภายใต้แบรนด์ เรดบลู ภายในสโมสรนักกีฬาของเขาเองได้จัดตั้ง หน่วยงานหนึ่งขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ ที่จะช่วยยกระดับชื่อเสียงของแบรนด์ตัวเอง ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ และเพื่อต้องการควบคุมการผลิตสื่อโฆษณา ให้สอดคล้องกับการตลาดของแบรนด์ตัวเองที่สุด 

• ประสบความสำเร็จจากพื้นที่ของสื่อโฆษณา

หลังจากที่ เรดบลู มีคอนเทนต์เป็นของตัวเอง และแน่นอนว่าย่อมต้องมี ช่องทางสื่อเป็นของตัวเองด้วย ถึงจะเรียกได้ว่าครอบคุมทุกทาง ทั้งทางโทรทัศน์ นิตยสาร และทางโซเชียล ที่มีคนติดตาม และให้กำลังใจ มากกว่าหนึ่งล้านคนทั่วโลก ซึ่ง RED BULL EXTREME ถือเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด 

ทั้งหมดคือที่มาและประวัติ ว่าแบรนด์เรดบลู เกี่ยวข้องอย่างไรกับ RED BULL EXTREME ซึ่งล้วนแล้วเป็นการตลาดที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำให้เรดบลู สามารถนำความสำเร็จนี้ไปปรับใช้ ให้เป็น EXTREME SPORT ทางด้านกีฬาได้เพราะมีต้นทุนที่ดี ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลัก ของเรดบลู มุ่งไปที่กลุ่มวัยรุ่น เพราะร่วมทำคอนเทนต์ ที่เป็นจุดสนใจของวัยรุ่น เลยทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขา จะได้รับการสนับจากวัยรุ่น มากเป็นพิเศษ 

ความเหมือน และความต่าง ระหว่าง เรดบลู และกระทิงแดง

แท้จริงแล้วแบรนด์เรดบลู ที่มีความสัมพันธ์กับ RED BULL EXTREME ที่เกี่ยวกับทางด้านกีฬา และยังมีคนเข้าใจผิด ว่าเป็นแบรนด์เดียวกันกับ กระทิงแดง ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิด และหลายคนเข้าใจอย่างนั้นมาตลอดหลายปี ซึ่งทั้งสองแบรนด์ เป็นผลิตภัณฑ์คนละแบรนด์โดยสิ้นเชิง ที่สิ่งที่เป็นมูลเหตุ ให้คนเข้าใจผิด น่าจะเป็นเพราะ มีเจ้าของคนเดียวกัน นั้นจะ คือใคร ไปไม่ได้ คือคุณเฉลียว อยู่วิทยา ซึ่งติดอันดับมหาเศรษฐีของเมืองไทย และติดอันดับโลกด้วยนั้นเอง เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องรู้จักตระกูลนี้อย่างแน่นอน 

สำหรับแบรนด์ Red Bull เกิดขึ้นมาจากนักธุรกิจชาวออสเตรีย ที่มีความหลงไหลในตัวแบรนด์ กระทิงแดง จึงได้นำไปขยายตลาดในต่างประเทศ และตั้งชื่อแบรนด์ว่า เรดบลู พร้อมทั้งจัดตั้งบริษัทใหม่ และเชิญชวนคุณ เฉลียว อยู่วิทยา เข้าเป็นผู้ถือหุ้น และขายในต่างประเทศเป็นหลัก ยาวนานมาถึง 30กว่าปี จนกลายเป็น ยูโรเปี่ยนแบรนด์ วางขาย 171 ประเทศทั่วโลก ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ แยกส่วนกันอย่างชัดเจน ขายคนละประเทศ มีผู้บริหารคนละคนกัน ตั้งแต่ที่คุณเฉลียว อยู่วิทยา ได้เสียชีวิตไป 

การตลาดของกระทิงแดง และเรดบลู แตกต่างกันอย่างไร 

กระทิงแเดง ทำการตลาดฝั่งเอเชียตะวันออก บริหารโดย คุณ สราวุฒิ อยู่วิทยา ทายาทที่มารับช่วงต่อจากคุณเฉลียว ซึ่งกระทิงแดงเป็นขวัญใจ ของคนใช้แรงงาน เพราะเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ช่วยให้กระปี่กระเปร่า ในการทำงาน ลดการอ่อนล้า หลังจากนั้นมีการพัฒนาแบรนด์ ให้การตลาดกระจายสู่กลุ่มวัยรุ่น และคนวัยทำงานมากขึ้น จนลืมภาพลักษณ์เก่าไปถนัดตา และยังคงมียอดขายอย่างต่อเนื่อง จนติดตลาดบนไปแล้วทุกวันนี้

เรดบลู เปิดตลาดในต่างประเทศ เจาะกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น เพราะผูกการตลาดกับด้านกีฬา ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นจะให้ความสนใจกีฬาเป็นพิเศษอยู่แล้ว แบรนด์เรดบลูในต่างประเทศ จึงเป็นขวัญใจของวัยรุ่นไปแล้วเช่นกัน ในส่วนของการทำการตลาดในไทยของเรดบลู ก็มีวางขายเช่นกัน เกิดจากผู้บริหารคนละคน แหล่งผลิตคนละที่ นั่นเลยเป็นสาเหตุทำให้คนเข้าใจผิด ว่าทั้งสองแบรนด์ เป็นแบรนด์เดียวกัน ราคากระทิงแดง จะเริ่มต้นที่ขวดละ10บาท ส่วนเรดบลู เป็นสินค้านำเข้า จึงมีราคาอยู่ที่ขวดละ 65บาท แต่ทั้งสองแบรนด์ มีส่วนสนับสนุน RED BULL EXTREME ร่วมกันทั้งทางตรงและทางอ้อม 

แต่การตลาดในไทยของเรดบลูนั้น ยากที่จะผูกกับนักกีฬา เหมือนการตลาดในต่างประเทศได้ เพราะด้วยกฎหมายเครื่องดื่มของไทย ที่เป็นอุปสรรคหลัก จึงเป็นโจทย์ยาก ที่เรดบลูจะปรับกลยุทย์ให้ได้ตามต้องการ แต่ถึงอย่างไร การตลาดของทั้งสองแบรนด์ ก็ดำเนินคู่กันมาแเบบเส้นขนาน ที่มีฐานลูกค้าของแต่ละคน ยาวนานมาถึง 30กว่าปี มาจนถึงปัจจุบัน และคนจะจดจำว่าทั้งสองแบรนด์ร่วมกันสนับสนุนกีฬา ภายใต้RED BULL EXTREME เป็นต้น